3 Rooms Shinjuku ที่พักพิงกลางโตเกียว
หลังจากที่ผมพักโรงแรมมาโดยตลอด ไปโตเกียวครั้งนี้ผมขอลองใช้ชีวิตแบบคนสมัยใหม่บ้าง นั่นคือการไปอยู่ที่บ้านที่เขาให้เช่าใน AIRBNB แทนที่จองจองโรงแรมอยู่ ซึ่งก็มาพอดีกับที่เพื่อนคนญี่ปุ่นของผมเพิ่งสร้างบ้านเสร็จหมาด และเขาสร้างมาเพื่อการให้เช่าแบบนี้โดยเฉพาะ คราวนี้จะไปกันหลายคน ทีมงานและผู้ปกครองทีมงาน 3 รวมผมอีกหนึ่งเป็น 4 คน น่าจะอยู่ได้สบายๆ กับบ้านสามห้องนอนนี้ (ส่วนอีกสองคนไปอยู่โรงแรม) ผมเลยขอลองสักหน่อย
สถานที่ตั้งของบ้าน อยู่ไม่ไกลจากสถานี Shinjuku นัก สามารถเดินได้สบายๆ แต่ถ้าใครเป็นคนชนิดต้องลงจากรถแล้วเดินสองสามก้าวถึง ก็คงต้องไปอยู่โรงแรมแคบๆ แทน ที่นี่นอกจากเดินมาจากสถานี Shinjuku ได้แล้ว ยังสามารถมาทาง Nishi-Shinjuku ได้ด้วย มาทางนี้จะต้องเดินผ่านตรอกซอกซอยเยอะหน่อย แต่ก็มีความปลอดภัยดีครับ ทางเดินผ่านทั้งร้านอาหาร ร้านเหล้า ร้านสะดวกซื้อ ศาลเจ้า ไปรษณีย์ โรงเรียน บ้านคน และที่เด็ดขาดคือมีร้านข้าวหน้าปลาไหล เปิดอยู่ติดกับบ้าน ส่งกลิ่นย่างปลาไหลหอมๆ มาให้น้ำลายไหลอยู่เรื่อยๆ มาดูกันครับ ว่าบ้านี้มันไปยังไงกัน
จริงๆ เดินมาจากสถานี Shinjuku ก็ได้ แต่นี่คือแบบที่ใกล้ที่สุด เพียงเลยไปอีกหนึ่งป้ายด้วย Tokyo Metro แล้วออกที่สถานี Nishi-Shinjuku
หันหลังให้สถานี หันหน้าให้ถนนแล้วเดินไปทางขวา (ต้องออกให้ถูกฝั่งนะครับ) เดินไปนิดเดียวจะเจอร้านอาหาร Jonathan's ถ้าเห็นร้านก็เลี้ยวก่อนถึงร้าน
เลี้ยวเข้าไปทางนี้ จะผ่านร้านอาหาร ร้านเหล้า ไปเรื่อยๆ
ผ่านร้านสะดวกซื้อและตู้กดน้ำ ผ่านอพาร์ทเมนต์ไปเรื่อยๆ
เดินไปก็ได้เข้าถึงความเป็นญี่ปุ่น ที่ถ้าเราไปอยู่ตามโรงแรมก็จะอีกอารมณ์หนึ่ง นี่เรามาเดินอยู่ในที่ๆ คนญี่ปุ่นเขาใช้ชีวิตกันจริงๆ เลย
มีบ้านน่ารักๆ ให้เพลินตาไปตามทาง ลัดเลาะไปเรื่อยๆ ถ้ามี Google map ก็ชิลครับ ไม่หลงแน่นอน
ชอบบ้านนี้เป็นพิเศษครับ แต่งได้มุ้งมิ๊งดีจริงๆ ครับ
จริงๆ ก่อนหน้านี้มีศาลเจ้าใหม่ๆ อยู่ด้วยระหว่างทาง แต่พอดีไม่ได้ถ่ายไว้ครับ นี่เดินมาข้ามสะพานไปยังถนนที่ตรอกของบ้านตั้งอยู่ครับ จวนแล้ว
ข้ามถนนไปก็จะถึงทางเข้าแล้วครับ แถวๆ ที่รถปูนจอดนั่นแหละครับ
ข้ามถนนมาแล้ว จะเห็น Familymart อยู่ไกลๆ เราไม่ไปทางนั้น แต่จะต้องเดินเข้าซอยไป
ไม่รู้จะเรียกว่าซอยหรือตรอกดี แต่ตรอกที่นี่มันไม่มีอะไรเหมือนตรอกที่บ้านเรานะครับ มันแค่เป็นทางเข้าแคบๆ แต่ไม่ดาร์ค แถมข้างทางเป็นสนามเบสบอลโรงเรียนอีกต่างหาก
ภาพนี้คือหันหลังกลับไปถ่ายตอนเดินเข้ามาในตรอกแล้ว พอดีผมมัวแต่หาทางไป เลยไม่ได้ถ่ายสนามเบสบอลโรงเรียนมา เขาเล่นกันอยู่ด้วย เลยไม่อยากไปรบกวนสมาธิเขา
มาถึงละแวกของบ้านแล้วครับ เป็นที่อยู่อาศัยของชาวญี่ปุ่นล้วนๆ ครับ
ตามที่เกริ่นเอาไว้ มีร้านข้าวหน้าปลาไหลอยู่ติดกับบ้าน บ้านคือหลังถัดไปที่ลึกเข้าไปครับ ส่วนที่เห็นคือร้านที่ทำปลาไหลสืบทอดมานมนานหลายรุ่น ส่งกลิ่นหอมลอยออกมาให้หิวเล่นอยู่เป็นพักๆ ครับ
ถึงแล้วครับ บ้านนี้เลย บ้านเล็กๆ หลังใหม่ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสะดวกสบาย บ้านของ The Hamamoto Family เพื่อนผมเอง
พร้อมแล้วเดี๋ยวเปิดเข้าไปชมข้างในกันเลยครับ
ลักษณะบ้านจะใช้เนื้อที่ให้ได้ประโยชน์สูงสุด เปิดประตูเข้ามาขวามือจะเจอห้องน้ำ ห้องน้ำนี้มีทั้งส่วนชักโครกและส่วนอาบน้ำ ตลอดจนที่แช่น้ำแบบญี่ปุ่น ซึ่งจะเป็นอ่างเล็กๆ พอดีนั่ง ไม่ได้ใหญ่โตเหมือนของฝรั่ง ห้องอาบน้ำเขามาเป็นแบบสำเร็จรูป เหมือนยกมาติดตั้ง ใช้งานดี น้ำแรง ร้อน เย็น ตามใจนึก และแยกส่วนเปียกแฉะด้วยประตู
เข้ามาจะเจอภาพนี้ครับ
ห้องน้ำชั้นล่าง มีส่วนเปียก ส่วนแฉะแยกกันเป็นอย่างดี
โซนอาบน้ำ จะแช่ก็ได้ จะชาวเวอร์ก็ดี น้ำแรง ร้อน ตามใจสั่ง
ออกจากห้องน้ำถัดไปเป็นบันไดขึ้นชั้นสอง ตรงไปเป็นห้องนอนหลัก เตียงควีนนอนได้สองคนสบายๆ ส่วนตรงข้ามห้องนอนเป็นที่วางอุปกรณ์เครื่องใช้จำเป็นต่างๆ เช่นผ้าเช็ดตัว ที่ชั่งน้ำหนัก (ที่ชั่งกระเป๋าก็มี) อุปกรณ์แพ็คของต่างๆ และตู้เก็บรองเท้า ซึ่งตามารยาทเวลาเข้าบ้านคนญี่ปุ่นจะนำรองเท้าเก็บใส่ตู้ ส่วนของแขกจะวางรอหันหน้าออกสู่ประตู เพื่อความสะดวกเวลากลับ ทั้งหมดที่เห็นนี้ขนาดรวมเดินสุดได้ในไม่เกิน 10 ก้าว x 5 ก้าวครับ เล็กแต่ครบ
สารพัดสิ่งจำเป็นของนักเดินทาง มีวางให้ใช้ฟรี ที่นี่เลย
ขึ้นบันไดไปชั้นสองครับ ที่นี่บันไดเขาชัน เพราะเนื้อที่ไม่มาก แต่ก็มีราวจับมาให้กันตก ถ้าผู้ใหญ่มาด้วย ให้อยู่ชั้นล่างดีที่สุด ใกล้ทั้งทางเข้าออก และห้องน้ำ
เดินขึ้นบันไดมาชั้นสอง ซ้ายมือจะเป็นโซนนั่งเล่น มีโซฟาเบดที่สามารถกางให้เป็นที่นอนได้ ตรงนี้มีทีวี แอปเปิ้ลทีวี อินเทอร์เน็ตไวไฟ พร้อมแบบพ็อกเก็ตให้ยืมไปใช้ได้ ตลอดจนหนังสือ แม็กกาซีน แผนที่ และไกด็บุ๊คพร้อมสรรพ ที่ชอบคือมีรายการที่เจ้าของบ้านทำไว้แนะนำผู้มาพักให้เลือกเที่ยว เลือกกินแบบคนแถวๆ นั้นด้วย
ห้องรับแขกที่สามารถเปลี่ยนโซฟาเป็นเตียงอีกเตียงได้
ของจำเป็นครบครับ แผนที่ ตำราท่องเที่ยว ต่างๆ ที่สำคัญมีทั้ง Wifi ปกติ และ Pocket Wifi ให้ยืมใช้ อ้อ...มีแม้แต่ power bank ด้วยครับ เรียกว่าครบจริงๆ
อีกด้านหนึ่งของบันได มีโต๊ะทานข้าวเล็กๆ ข้างบนโต๊ะมีของขบเคี้ยวเตรียมไว้ให้เพียบ ขวาไปอีดเป็นโซนครัว มีตู้เย็น อ่างล้างจานขนาดใหญ่ เครื่องต้มกาแฟ เตาทำไฟฟ้า และเครื่องซักผ้า รวมทั้งอุปรกรณ์เครื่องใ้ทำครัว และภาชนะใส่อาหารพร้อมสรรพ เปิดตู้เย็นมีเครื่องดื่มสารพัดแบบวางรออยู่
ครัวที่มีทุกอย่างครบครับ มาอยู่กันได้ยาวๆ ที่สำคัญค่าเช่าเขาไม่แพง ถ้ามาเกินสองคนอยู่โรงแรมแพงกว่าแน่นอน นี่ไม่รวมที่ทำอาหารได้ ซักผ้าได้ และสิ่งอำนวยความสะดวกอีกเพียบ ที่หาที่โรงแรมไม่ได้
ได้เวลาเดินขึ้นชั้นบนสุดกันครับ
นี่ภาพที่เห็นเมื่อเดินขึ้นมาข้างบนครับ
ขึ้นมาชั้นสาม ซึ่งเป็นชั้นบนสุด ชั้นนี้เดินขึ้นบันไดมา เบื้องหน้าจะเป็นห้องน้ำ ที่มีแค่อ่างล้างหน้าและชักโครกอยู่ในห้องขนาดพอดีตัว สองด้านซ้ายขวาจะเป็นห้องนอน ที่ห้องหนึ่งมีเตียงเดี่ยวหนึ่งเตียงวางอยู่ ส่วนอีกห้องจะเป็นเตียงเดี่ยวและชั้นลอยพร้อมฟูกปูไว้ ทำให้บ้านนี้มีที่นอนรวมแล้วน่าจะอัดได้ 7 คน แต่ห้องน้ำที่อาบได้มีแค่หนึ่ง ส่วนห้องที่มีชักโครกมีสอง ซึ่งผมคิดว่าเหมาะกับ 4 คน จะไ่เสียเวลารอเข้าห้องน้ำมาก แต่ใครไม่รีบร้อนไปเที่ยวไหน ก็มากัน 7 คนก็น่าจะไหวครับ ถ้าเป็นครอบครัวก็น่าสนุก แต่หากเป็นกลุ่มเพื่อนก็แล้วแต่ครับ
คืนแรกที่ผมมาถึง ผมอยู่มันคนเดียวเลย เพราะคณะที่จะตามมา จะมาในวันต่อไป ตอนกลางคืนละแวกนี้สงบเงียบดี เพราะเป็นย่านที่พักอาศัย หลับสบายไร้เสียงรบกวน สรุปแล้วใครอยากมาญี่ปุ่นแล้วลองใช้ชีวิตแบบญี่ปุ่นๆ มาลองอยู่แบบนี้ดูก็เข้าท่าครับ ยิ่งมีที่ทำอาหาร เราซื้อวัตถุดิบดีๆ มาทำเอง ถูกด้วยอร่อยด้วยแนวด้วยจะตายไป ต่างกับอยู่โรงแรม กว้างกว่า ครบครันกว่า ผมมาอยู่แล้วแอบเผลอมโนว่าเราเป็นคนญี่ปุ่นก็มีในบางจังหวะ ให้ห้าดาวเลยครับ ใครสนใจไปค้นหาได้ใน AIRBNB หา 3 Rooms Shinjuku ของ The Hamamoto Family ตามลิ๊งค์นี้ https://www.airbnb.jp/rooms/6953234 ครับ
ผมไม่ได้อะไรนะครับจากการแนะนำหรือเอามาเล่า แค่ชอบเฉยๆ เลยอยากตีแผ่